อันตรายจากฝุ่น PM2.5

 
    ฝุ่น PM2.5 ปกคลุมทั่วเมืองสมุทรปราการอย่างหนาแน่น ในเขตตำบลปากน้ำของเราก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน วันนี้แอดมินจึงอยากนำความรู้เรื่องของ ฝุ่น PM2.5 และวิธีป้องกันมาแบ่งปันพี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่ให้ทราบ เพื่อรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อสุขภาพ ฝุ่นละออง PM2.5 เป็นฝุ่นที่มีขนาดเล็กและมีเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน จะมีขนาดเล็กกว่าเส้นผมของเราถึง 20 เท่า เราไม่สามารถที่จะมองเห็นด้วยตาเปล่าได้และเมื่อฝุ่นเหล่านี้มารวมตัวกันเยอะมากๆ จะทำให้เรามองเห็นเป็นลักษณะที่คล้ายกับหมอกจางๆ หรือควัน และ มีผลกระทบส่งผลต่อสุขภาพ โดยเมื่อสัมผัสฝุ่น PM2.5 เข้าไปจะมีอาการไอ จาม ระคายเคืองตา และผิวหนัง ทั้งนี้หากรับฝุ่นละออง PM2.5 เข้าไปในปริมาณที่มากจะส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาวมีผลต่อโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง และ มีความเสี่ยงของการเกิดที่ร้ายแรง เช่น โรคมะเร็งปอด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมองด้วย
 
    แหล่งกำเนิดของฝุ่นละออง PM2.5 ส่วนใหญ่ เกิดมาจากมลภาวะขอ'โรงงานอุตสาหกรรม การเผาป่า เผาขยะ ควันท่อไอเสียรถ การเผาเชื้อเพลิง และการก่อสร้างต่างๆ เป็นต้น ซึ่งในกรุงเทพฯ เป็นจุดที่มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมีการก่อสร้าง และ มีการจราจรที่แออัด อันเป็นสาเหตุหลักของฝุ่นพิษ PM2.5 ที่สงผลเสียต่อสุขภาพของประชาชนจึงเป็นจุดที่ได้รับผลกระทบและรุนแรงมากที่สุดจากฝุ่น PM2.5
 
   วิธีการป้องกัน
1. สวมหน้ากากป้องกันฝุ่น โดยหน้ากากที่สามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 ได้ดีและมีประสิทธิภาพคือ หน้ากาก N95 ซึ่งมีราคาสูงกว่าหน้ากากอนามัย และบางคนอาจสวมแล้วอาจให้ความรู้สึกอึดอัด เพราะหายใจได้ลำบากกว่าปกติ
2. หากไม่ใช้หน้ากาก N95 อาจใช้หน้ากากอนามัยที่มีฟิลเตอร์รองรับ 3 ชั้น หรือถ้าหากหาไม่ได้จริงๆ อาจใช้หน้ากากอนามัยธรรมดาแต่สวมทับ 2 ชั้น หรือซ้อนผ้าเช็ดหน้าหรือทิชชูไว้ด้านในก็ได้
3. พยายามหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิดเมื่อคุณภาพอากาศอยู่ในระดับที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ หากจำเป็นต้องใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองเมื่ออยู่ข้างนอกอาคาร
4. ใช้เครื่องฟอกอากาศ เนื่องจากภายในอาคารอาจไม่ปลอดภัยจาก PM2.5 เสมอไป โดยเฉพาะอาคารที่มีการเปิดปิดประตูบ่อยครั้งจากการที่มีผู้คนเข้าออกจำนวนมาก ดังนั้นเครื่องฟอกอากาศจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้หายใจในอาคารได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น
 
 

Share this Post